ระบบจัดการโต๊ะของ Bistrochat ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยมืออาชีพในวงการอาหารและเครื่องดื่มให้สามารถจัดการการจองและบริหารพื้นที่ในร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์หลากหลายของเราถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่พบจริงในธุรกิจร้านอาหาร ช่วยให้การทำงานราบรื่น เพิ่มยอดขาย และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

ไฮไลต์ฟีเจอร์เด่น #

1. การรวมโต๊ะอัตโนมัติ #

• ทำอะไรได้บ้าง: รวมโต๊ะที่อยู่ติดกันโดยอัตโนมัติ พร้อมกำหนดจำนวนลูกค้าต่อโต๊ะหรือชุดโต๊ะได้ตามต้องการ
• ทำไมถึงสำคัญ: เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดที่นั่ง รองรับกลุ่มลูกค้าได้หลายขนาด และช่วยลดพื้นที่ว่างระหว่างรอบการใช้งาน

2. จัดการการจองจากหลายช่องทาง #

• ทำอะไรได้บ้าง: รวมการจองจากเว็บไซต์ Instagram Facebook Google Reserve WhatsApp และช่องทางอื่น ๆ ไว้ในที่เดียว
• ทำไมถึงสำคัญ: ป้องกันการตกหล่นของการจอง และทำให้ทีมงานจัดการง่ายขึ้นในระบบเดียว

3. การจัดลำดับโต๊ะและการจัดสรรอัตโนมัติ #

• ทำอะไรได้บ้าง: จัดลำดับความสำคัญของโต๊ะตามการตั้งค่าของร้าน และระบบจะจัดสรรโต๊ะให้โดยอัตโนมัติ พร้อมให้พนักงานปรับเองได้
• ทำไมถึงสำคัญ: เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานพื้นที่ และทำให้โต๊ะ VIP หรือโซนสำคัญไม่ถูกมองข้าม

4. ระยะเวลาการใช้โต๊ะตามขนาดกลุ่มลูกค้า #

• ทำอะไรได้บ้าง: กำหนดระยะเวลาในการใช้โต๊ะอัตโนมัติตามขนาดของกลุ่มลูกค้า เช่น 90 นาที สำหรับกลุ่มเล็ก 120 นาที สำหรับกลุ่มกลาง และ 2.5 ชั่วโมง สำหรับกลุ่มใหญ่
• ทำไมถึงสำคัญ: วางแผนการหมุนเวียนของโต๊ะได้อย่างมีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอ

5. ควบคุมจำนวนแขกในแต่ละช่วงเวลา #

• ทำอะไรได้บ้าง: กำหนดจำนวนลูกค้าสูงสุดในแต่ละช่วงเวลา เพื่อป้องกันห้องครัวและทีมงานล้น
• ทำไมถึงสำคัญ: รักษาคุณภาพการบริการและความเร็วในการเสิร์ฟอาหาร

6. การตั้งค่าพื้นที่และช่วงเวลาให้จองได้ #

• ทำอะไรได้บ้าง: ตั้งค่าพื้นที่ให้จองได้ เช่น โซนด้านใน ด้านนอก เคาน์เตอร์ครัว เก้าอี้สูง พร้อมกำหนดเวลาการจองเฉพาะโซน
• ทำไมถึงสำคัญ: ปรับประสบการณ์ลูกค้าให้เหมาะกับรูปแบบของร้านในแต่ละช่วงเวลาได้เต็มที่

7. ระบบเช็กอิน #

• ทำอะไรได้บ้าง: เช็กอินลูกค้าเมื่อมาถึง แสดงเวลามาถึง ระยะเวลาที่รอ และลำดับการนั่ง
• ทำไมถึงสำคัญ:
  • ควบคุมการไหลของลูกค้าได้ดี: รู้ว่าลูกค้ากลุ่มไหนมานานที่สุดและจัดที่นั่งได้ตามลำดับ
  • ยกระดับการบริการ: ทีมงานเห็นข้อมูลจริงแบบเรียลไทม์ จึงบริการได้ทันสถานการณ์
  • ใช้ข้อมูลวางแผน: บันทึกข้อมูลการเช็กอินเพื่อใช้ปรับปรุงการวางแผนและกำลังคนในอนาคต

8. ยืนยันการจองล่วงหน้า #

• ทำอะไรได้บ้าง: ระบบส่งข้อความติดตามการจอง พร้อมให้พนักงานเช็กสถานะการยืนยันได้
• ทำไมถึงสำคัญ: ลดจำนวน no-show และทำให้ข้อมูลการจองอัปเดตอยู่เสมอ

9. ไทม์ไลน์แขก (Guest Timeline) #

• ทำอะไรได้บ้าง: แสดงการกระจายของลูกค้าในแต่ละช่วงเวลา ช่วยให้ทีมงานวางแผนรับลูกค้าได้ดีขึ้น
• ทำไมถึงสำคัญ: คาดการณ์ช่วงพีค และจัดการโซนต่าง ๆ ให้พร้อมรับแขก

10. บันทึกข้อความภายในทีมงาน #

• ทำอะไรได้บ้าง: เขียนโน้ตประจำวันถึงทีมงาน เช่น การเปลี่ยนเวร สต็อกหมด โปรโมชั่น
• ทำไมถึงสำคัญ: ทำให้ทีมงานสื่อสารกันชัดเจนโดยไม่ปะปนกับระบบอื่น เช่น ระบบออเดอร์

11. อินเตอร์เฟซแบบลากและวาง #

• ทำอะไรได้บ้าง: ลากและวางเพื่อเปลี่ยนโต๊ะหรือแก้ไขการจองได้ง่าย ๆ
• ทำไมถึงสำคัญ: ปรับผังร้านแบบเรียลไทม์ ช่วยให้จัดการได้ทันสถานการณ์

12. ดูออเดอร์แบบเรียลไทม์ #

• ทำอะไรได้บ้าง: เชื่อมต่อกับระบบ POS เพื่อดูออเดอร์ที่กำลังดำเนินอยู่ควบคู่กับการจอง
• ทำไมถึงสำคัญ: วางแผนการบริการได้แม่นยำขึ้นโดยไม่รบกวนระบบอื่น

13. การกรองการจอง #

• ทำอะไรได้บ้าง: กรองตามจำนวนคน เวลามาถึง สถานะยืนยัน VIP วันเกิด และอื่น ๆ ได้
• ทำไมถึงสำคัญ: จัดเตรียมการบริการเฉพาะกลุ่มได้ง่ายขึ้น

14. ระบบ AI อ่านอีเมลจองโต๊ะ #

• ทำอะไรได้บ้าง: ใช้ AI อ่านข้อมูลจากอีเมลจองอัตโนมัติ เช่น วันเกิด ครบรอบ ช่องทางที่ลูกค้าจอง และอัปเดตเข้าสู่ระบบ
• ทำไมถึงสำคัญ: ลดงานของทีม และมั่นใจว่าทุกรายการถูกเก็บเข้าสู่ระบบอย่างครบถ้วน

สรุป #

ระบบจัดการโต๊ะของ Bistrochat ไม่ใช่แค่เครื่องมือจองโต๊ะ แต่เป็นระบบที่ครอบคลุมทุกด้านของการจัดการร้านอาหาร ให้คุณวางแผน จัดการ และให้บริการได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มรอบโต๊ะ การไหลของลูกค้า หรือการยกระดับประสบการณ์ร้านของคุณ

พร้อมจะพลิกโฉมการจัดการโต๊ะและเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าแล้วหรือยัง? ติดต่อเราวันนี้เพื่อขอเดโมระบบจากทีม Bistrochat!